โครงสร้าง Future simple tense
ในเนื้อหาบทนี้เราจะพูดถึง โครงสร้าง Future simple tense โดยมีโครงสร้างที่เราควรรู้ ได้แก่
บอกเล่า | S. + will + v.inf |
They will work with us. (พวกเขาจะทำงานกับพวกเรา) | |
ปฏิเสธ | S. + will not + v.inf |
They will not work with us. (พวกเขาจะไม่ทำงานกับพวกเรา) | |
คำถาม | Will (not) + s. + v.inf ? |
Will they work with us? (พวกเขาจะทำงานกับพวกเราไหม?) |
*** บางโรงเรียนสอนให้ใช้ V.1 เป็นความรู้ที่ผิดนะคะ ต้องเป็น V.inf เพราะกริยาทุกตัวที่ตามหลังกริยาช่วย (ในที่นี้คือตามหลัง will นั่นเอง) ต้องเป็นกริยาดั้งเดิม ห้ามเติมอะไรเลย ซึ่งก็คือ V.inf เพียงแต่ V.inf ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาเหมือนกันกับ V.1 แต่จำไว้เสมอว่า ไม่ได้เหมือนกันทุกตัว ***
ไขข้อข้องใจ : เราใช้ be going to แทน will ใน Future Simple Tense ได้เลย ในกรณีที่มีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว (ใช้ will ในเหตุการณ์ที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน เพิ่งคิดสด ๆ ณ ตอนพูด)
1) ใช้กับเรื่องที่คาดว่า/วางแผนว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
- I will make you happy. แปลว่า ฉันจะทำให้คุณมีความสุข (คาดว่าจะทำ)
- He is going to be a better person. แปลว่า เขาจะเป็นคนที่ดีขึ้น (วางแผนว่าจะปรับปรุงตัว)
- It won’t last long. แปลว่า มันคงอยู่ไม่นานหรอก (คาดว่ามันจะอยู่ไม่นาน)
2) ใช้ในการเสนอตัวช่วย หรือพูด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
- Don’t worry. Everything will be alright. (อย่ากังวลเลย ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี)
- We will help you out. (พวกเราจะช่วยคุณเอง)
- She is going to keep on loving you. (เธอจะรักคุณไปตลอดแน่)
3) ใช้คู่กับ Present Simple Tense เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่อกันในอนาคต โดยที่เรื่องที่หนึ่งจบแล้วเรื่องที่สองค่อยเกิดขึ้น
เรื่องที่เกิดก่อนให้ใช้ Present Simple เรื่องที่เกิดทีหลังให้ใช้ Future Simple
- When the class finish, we will go out for lunch. (เมื่อคาบเรียนจบ เราจะไปทานอาหารกลางวันกัน)
- I will think of him when I hear this song. (ฉันจะคิดถึงเขาเวลาได้ยินเพลงนี้)
- Will you lend me some cash when I am poor? (คุณจะให้ฉันยืมเงินสดไหมเวลาฉันจน)
เทคนิคสังเกต : อะไรเกิดที่ก่อนจะเอาไว้หลังคำว่า when
การทำประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธ และ ประโยคคำถาม
กรณีที่ 1 : เป็นคำถาม yes/no
ทำให้เป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง will ได้เลย
ถ้าเป็น to be going to ทำให้เป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง v. to be แทน
– I will be nice. 🡪 I will not/won’t be nice.
– I am going to be nice 🡪 I am not going to be nice.
ทำให้เป็นคำถามโดยการเอา will/ v. to be มาไว้หน้าสุด เช่น
– You will be fine. 🡪 Will you be fine?
– Everyone is going to be safe 🡪 Is everyone going to be safe? **อย่าลืมใส่ ? ท้ายคำถามนะคะทุกคน
เวลาตอบคำถามประเภทนี้ก็ตอบทวนคำถาม เช่น Yes, you will. / No, you won’t.
กรณีที่ 2 : เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบเป็นข้อมูลไม่ใช่ yes/no
ให้นำคำถามขึ้นต้นประโยค (Wh- question) มาไว้ด้านหน้าประโยคคำถามแบบ yes/no ได้เลย
- What = อะไร มักใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ เวลาวันที่ เช่น
What is your favorite animal?
What time is it?
- Where = ที่ไหน มักใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่ เช่น
Where do we meet?
Where are you?
- When = เมื่อไร มักใช้ถามเกี่ยวกับวันเวลา เช่น
When is Christmas?
When will they sleep?
- Why = ทำไม มักใช้ถามเกี่ยวกับเหตุผล เช่น
Why are you so cute?
Why did you do that?
- Who = ใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับคน เช่น
Who does he like?
Who is she?
- Whose = ของใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ (ถามว่าเป็นของใคร) เช่น
Whose pen is it?
Whose are these?
- Whom = ใคร มักใช้ถามเกี่ยวกับคนเหมือน who แต่คนที่ถูกพูดถึงจะต้องเป็นกรรม เช่น
Whom are you waiting for?
Whom do you serve?
- Which = อันไหน/สิ่งไหน มักใช้ถามเวลาให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
Which dress do you like?
Which is nicer?
- How = อย่างไร/เท่าไร มักใช้ถามเรื่องราคา จำนวน สุขภาพ อายุ ความถี่ วิธีการทำ เช่น
How much is this?
How many pets do you have?
How do you do? หรือ How are you?
How old are you?
How often do you exercise?
How do you go to work?