Parts of speech – Noun ( คำนาม )

Parts of speech : Noun (คำนาม) คืออะไร

ในหัวข้อนี้ เป็นหัวข้อของ Noun หรือ คำนาม เราจะมาคำตอบกันว่า คืออะไร และใช้งานยังไง

 คือ  คำที่ใช้แทน ชื่อคน, สัตว์, สิ่งของ, สถานที่, ความรู้สึก, แนวคิด, และลักษณะกลุ่มก้อน เช่น

• คน/สัตว์ : teacher, engineer, doctor, Josh, Lisa, puppy, dolphin, butterfly
• สิ่งของ : photograph, refrigerator, hankie, bookshelf, notebook, container, honey, banana
  
• สถานที่ : gallery, public library, playground, forest, mountain, Bangkok, London
  
• แนวคิด/ความรู้สึก : pleasure, sadness, thought, morality, faith, confidence, pain, anger, love
  
• ลักษณะ (เป็นชิ้น อัน กลุ่ม ก้อน) : piece, pile, flock, heap, pack, slide, deck, troop, army, unit, bunch

หน้าที่ของ Noun (คำนาม) 

1. เป็นประธาน (ชอบอยู่หน้าคำกริยา) เช่น Jane is a wonderful person. 
2. เป็นกรรมของกริยา คือ เป็นคนโดนกระทำ (ชอบอยู่หลังคำกริยา) เช่น You stole my heart. 
3. เป็นส่วนเติมเต็ม ถ้าไม่เติมประโยคจะมีความหมายไม่สมบูรณ์ (ชอบอยู่หลังคำกริยา) เช่น This is a book.
4. เป็นกรรมของบุพบท เอาไว้เชื่อมกับคำบุพบท (ชอบอยู่หลังคำบุพบท) เช่น Keys are on the table.

ประเภทของ Noun (คำนาม) 

1. Common Noun (นามทั่วไป/สามานยนาม) : ใช้เรียกรวม ๆ สิ่งต่าง ๆ ทั่วไป ไม่เจาะจง
2. Proper Noun (นามเฉพาะ/วิสามานยนาม) : ใช้เรียกเจาะจง พูดถึงแล้วรู้เลยว่าคือใคร อะไร หรือที่ไหน
   ** Proper noun จะขึ้นต้นคำด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ **
3. Concrete Noun (นามรูปธรรม) : มีรูปร่าง รับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตา หู จมูก ปาก มือ
4. Abstract Noun (นามนามธรรม) : ไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส เช่น ความรู้สึกนึกคิด ความสัมพันธ์ อาการสภาวะต่างๆ มักขึ้นต้นด้วยคำว่า “การ/ความ” ในภาษาไทย เช่น ความรัก การเรียน
5. Collective Noun (สมุหนาม) : ใช้เพื่อบอกถึงความเป็น หมู่คณะ ฝูง กลุ่ม ก้อน พวกพ้อง
   – มักใช้ร่วมกับ common noun ที่นับได้ เช่น
   a heap of stones (หินกองหนึ่ง),  a pair of shoes (รองเท้าคู่หนึ่ง), a pack of wolves (หมาป่าฝูงหนึ่ง)
   แต่ collective noun ก็สามารถใช้เดี่ยว ๆ ได้ ไม่ต้องพึ่งใครได้ เช่น
   army (กองทัพ), crowd (ฝูงชน), family (ครอบครัว), team (ทีม)
6. Material Noun (วัตถุนาม) : มีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนที่นับไม่ได้ ให้จำว่าไม่สามารถนับได้ถ้าไม่มีเครื่องมือมาช่วยวัด ชั่ง ตวง นับ เช่น
   beef, bread, flour, coffee, water, aluminum, copper, gold, iron, helium, hydrogen, oxygen, pollution, smoke, furniture, money, information
7. Countable noun (นามนับได้) : สามารถนับจำนวนได้ จึงมีทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์
8. Uncountable noun (นามนับไม่ได้) : ไม่สามารถนับจำนวนได้ จึงมีแค่รูปเอกพจน์เท่านั้น

แถม! คำนามบางคำ มี 2 ความหมาย ต้องระวังให้ดี เช่น

• คำนามนับไม่ได้ : Copper = แร่ทองแดง — คำนามนับได้ (รูปพหูพจน์) : Coppers = เหรียญทองแดง
• คำนามนับไม่ได้ : Time = เวลา — คำนามนับได้ (รูปพหูพจน์) : Times = จำนวนครั้ง / รอบ
• คำนามนับไม่ได้ : Food = อาหาร — คำนามนับได้ (รูปพหูพจน์) : Foods = เชนิดของอาหาร
• คำนามนับไม่ได้ : Work = งาน — คำนามนับได้ (รูปพหูพจน์) : Works = ผลงาน

9. ตัวพิเศษ Compound Noun คือ คำประสมนั่นเอง เกิดจากการผสมคำตั้งแต่ 2 คำ แล้วกลายเป็นความหมายใหม่
มีรูปแบบการผสม 6 รูปแบบ

1. Noun + Noun = sunlight (แสงอาทิตย์) fire fighter (พนักงานดับเพลิง) ice–cream (ไอศกรีม)
2. Noun + Verb = haircut (ทรงผม) milkshake (นมปั่น) sunrise (พระอาทิตย์ขึ้น) 
3. Verb + Noun/ V.ing + Noun = cookbook (หนังสือสอนทำอาหาร) swimming pool (สระว่ายน้ำ) washing machine (เครื่องซักผ้า)
4. Adjective + Noun = freshwater (น้ำจืด) blackboard (กระดานดำ) goldfish (ปลาทอง)
5. Adverb + Noun = underground (รถไฟใต้ดิน) underworld (ยมโลก) 
6. Adverb + Verb = output (ผลผลิต) input (การนำเข้าข้อมูล)