Parts of speech :Pronoun (คำสรรพนาม)
ในหัวข้อนี้ เป็นหัวข้อของ Pronoun ( คำสรรพนาม ) เราจะมาคำตอบกันว่า คืออะไร และใช้งานยังไง
คือ คำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือ แทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว หรือ แทนสิ่งของที่ยังไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าคืออะไร
หน้าที่ของ Pronoun (คำสรรพนาม)
“ทำทุกอย่างได้เหมือนคำนาม แบ่งตามประเภทอีกทีหนึ่ง”
ตัวอย่างเช่น
- เป็นประธาน (อยู่หน้าคำกริยา) เช่น She is a wonderful person.
- เป็นกรรมของกริยา คือ เป็นคนโดนกระทำ (อยู่หลังคำกริยา) เช่น Joe will take care of himself.
- เป็นกรรมของบุพบท เอาไว้เชื่อมกับคำบุพบท (อยู่หลังคำบุพบท) เช่น Rosy talks with me about her friends.
ประเภทของ Pronoun (คำสรรพนาม)
- Personal Pronoun (บุรุษสรรพนาม) : I, you, he, she, it, we, they, me, him, her, us, them
ตัวอย่างประโยค
– I saw a girl on the bus. She seemed to know me. (ฉันเจอเด็กผู้หญิงบนรถบัส หล่อนดูเหมือนจะรู้จักฉันเลย)
– My classmate and his dad like to swim. They swim whenever they can. (เพื่อนร่วมห้องของฉันและพ่อของเขาชอบว่ายน้ำ พวกเขาไปว่ายน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส)
แถมทางลัดพิเศษ: Personal Pronoun ที่ตามหลังคำกริยาหรือตามหลังบุพบท ต้องใช้ในรูปกรรมเท่านั้น เช่น
Please tell me the secret. (ตามหลังกริยา tell)
Boss talked with us about the plan. (ตามหลังบุพบท with) - Possessive Pronoun (สรรพนามเจ้าของ) : mine, yours, ours, theirs, his, hers, its
ใช้เป็นคำนามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ อยู่คนเดียวได้เลยไม่ต้องพึ่งใคร เช่น
– He is mine! (เขาเป็นของฉัน!)
– Is this yours? (อันนี้ของคุณหรือเปล่า)
ระวัง! : อย่าสับสนกับ Possessive Adjective เพราะหน้าตาคล้ายกัน จำไว้ว่า Pronoun = Noun อยู่คนเดียวได้ แต่ Adjective ต้องพึ่ง Pronoun/Noun เสมอ เช่น
He is mine. 🡪 He is my boyfriend. หรือ Is this yours? 🡪 Is this your book?
จะเห็นได้ว่า mine = Possessive Pronoun ส่วน my = Possessive Adjective
yours = Possessive Pronoun ส่วน your = Possessive Adjective - Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) เป็นคำที่มี – self ลงท้าย : myself, yourself, ourselves, themselves, himself, herself, itself
– ใช้เพื่อเน้นว่าใครเป็นคนทำ โดยจะวางหลังคนนั้น เช่น
She herself doesn’t think she’ll get an A.
The movie itself wasn’t very good but I like the music.
– วางหลังคำกริยา เมื่อกริยาของประโยคเป็นกริยาที่ทำต่อตัวประธานเอง เช่น
They blamed themselves. (ตามหลังกริยา blamed)
You are not yourself these days. (ตามหลังกริยา are)
– ใช้ต่อท้ายประโยค เมื่อต้องการจะเน้นว่าเป็นคนทำเอง เช่น
I fixed it myself.
You can do it yourself.
แถม : By myself = on my own
on ( my/your/his/ her/ its/our/their ) own มีความหมายเหมือนกับ
by (myself/ yourself(singular)/ himself/ herself/ itself/ ourselves/ yourselves(plural)/ themselves)
สามารถเลือกใช้ได้เลย เช่น
I like living on my own/by myself.
Kids are not allowed to cook on their own/ by themselves. - Definite Pronoun (Demonstrative Pronouns สรรพนามเจาะจง) : this, that, these, those
คือ คำสรรพนามที่ชี้เฉพาะเจาะจง ให้นึกภาพคนชี้นิ้วได้เลย มี 4 ตัวที่เจอบ่อยจนคุ้นตา ได้แก่
– This ใช้ชี้ของหนึ่งชิ้น ที่อยู่ใกล้ ๆ
– That ใช้ชี้ของหนึ่งชิ้น ที่อยู่ไกล ๆ
– These ใช้ชี้ของหลายชิ้น ที่อยู่ใกล้ ๆ
– Those ใช้ชี้ของหลายชิ้น ที่อยู่ไกล ๆ
ระวัง! : อย่าสับสนกับ Definite Adjective เพราะหน้าตาเหมือนกัน จำไว้ว่า Pronoun = Noun อยู่คนเดียวได้ แต่ Adjective ต้องพึ่ง Pronoun/Noun เสมอ เช่น
This is a book. 🡪 This book is good. หรือ Are these free? 🡪 Are these seats free?
- Indefinite Pronoun (สรรพนามไม่เจาะจง) : คำสรรพนามที่พูดถึงโดยรวม ไม่เจาะจง คล้ายกันกับ Common Noun เลย
ตัวอย่างประโยค
– Everybody loves somebody.
– Is there anyone here?
– Nobody will believe you. - Interrogative Pronoun (สรรพนามคำถาม) : ใช้แทนคำนาม สำหรับคำถาม : who, whom, whose, what, which, Whoever, Whomever, Whatever, Whichever
ระวัง! : อย่าสับสนกับ Interrogative Adjective เพราะหน้าตาเหมือนกัน จำไว้ว่า Pronoun = Noun อยู่คนเดียวได้ แต่ Adjective ต้องพึ่ง Pronoun/Noun เสมอ เช่น
Whose is this? 🡪 Whose dog is this? หรือ Which is yours? 🡪 Which gift is yours? - Relative pronoun (สรรพนามเชื่อมความ) : ใช้เชื่อมคำ หรือ ประโยคข้างหน้าและข้างหลังเข้าด้วยกัน
– Who = ผู้ซึ่ง/คนที่ ใช้กับสิ่งมีชีวิต
– Whom = ผู้ซึ่ง/คนที่ ใช้กับคน (ทำหน้าที่เป็นกรรม มักใช้ในภาษาที่เป็นทางการ)
– Whose = เป็นของ ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ
– Which = อันไหน คนไหน ชิ้นไหน ใช้กับสัตว์และสิ่งของ
– That = ซึ่ง/ที่ ใช้กับคน สัตว์ สิ่งของ (มักใช้ในภาษาที่ไม่เป็นทางการ)
– Where = ที่ ใช้กับสถานที่
– When = ตอน/เมื่อ ใช้กับเวลา
– Why = ทำไม ใช้กับเหตุผล
– What = สิ่งที่/อะไรที่ ใช้กับสิ่งต่าง ๆตัวอย่างประโยค
– I will tell you what you need to know. ฉันจะบอกเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้เอง
– The one who understands me best is myself. คนที่เข้าใจฉันดีที่สุดคือตัวฉันเอง
– You may read whatever you like at this library. คุณจะอ่านอะไรก็ได้ที่คุณชอบที่ห้องสมุดนี้